• หน้าหลัก
  • บริการของเรา
    • In-house and Virtual Training
    • Keynote Speaker
    • Course Online
  • สรุปเรื่องน่ารู้
    • บทความ
    • การเงิน
    • Podcast
    • เขียนได้ขายดี
  • เกี่ยวกับเรา
  • แจ้งชำระเงิน
  • ติดต่อสอบถาม
senseipae
  • หน้าหลัก
  • บริการของเรา
    • In-house and Virtual Training
    • Keynote Speaker
    • Course Online
  • สรุปเรื่องน่ารู้
    • บทความ
    • การเงิน
    • Podcast
    • เขียนได้ขายดี
  • เกี่ยวกับเรา
  • แจ้งชำระเงิน
  • ติดต่อสอบถาม

บทความ

Home » # One page summary เทคนิคสรุปด้วยกระดาษหนึ่งใบ ที่บริษัทญี่ปุ่นใช้พลิกประเทศ

# One page summary เทคนิคสรุปด้วยกระดาษหนึ่งใบ ที่บริษัทญี่ปุ่นใช้พลิกประเทศ

  • Posted by วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ (เซนเซแป๊ะ)
  • Categories บทความ, บทความ
  • Date 21 พฤษภาคม 2025
  • Comments 0 comment

1.ญี่ปุ่น จากตกต่ำสู่เติบโต
หากศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจะพบว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากมากคือหลังแพ้สงครามโลกในปี 1945 พวกเขาต้องใช้หนี้สงครามพร้อมกับเยียวยาจิตใจคนในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูกซึ่งคร่าชีวิตประชาชนนับแสน

ญี่ปุ่นชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้เกือบ 20 ปี สะสมกำลังและเริ่มกลับมามีอิทธิพลกับโลกอีกครั้งในช่วง 1960 แต่ไม่ใช่ในฐานะชาติบ้าสงครามเหมือนเก่า แต่เป็นในฐานะผู้ผลิตสินค้าคุณภาพดีราคาเข้าถึงได้ของโลกแทน รายได้จากทั้งในและต่างประเทศเฟื่องฟูเติบโตแบบก้าวกระโดดบางปี GDP ก็เติบโตถึง 10%+

แหล่งที่มา :World Bank แสดงผลโดย Cluade AI

และในยุคเติบโตนั้นเองที่เกิดแนวทางการทำงานวิถีญี่ปุ่นมากมายรวมไปถึงสิ่งที่เราจะพูดคุยกันในบทความนี้ “เทคนิคการสรุปรายงานให้อยู่ในกระดาษใบเดียว (One page summary) หรือ A3 Report”

ตัวอย่างของ One page summary

Credit : Sensei Lek

2. ใครเป็นคนคิดค้น One page summary

Nakamura ถือได้ว่าเป็นผู้ร่วมก่อตั้งระบบ Toyota Production System ในฐานะหัวหน้าวิศวกร เดิมเขาเคยรับผิดชอบรถยนต์ Crown เพียง 1 รุ่น แต่พอรถยนต์จากญี่ปุ่นเริ่มขายได้ที่ต่างประเทศเขาจึงจำเป็นรับผิดชอบโปรเจกต์อื่น ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน ด้วยงานจำนวนมากและคนที่เกี่ยวข้องหลายพันคนตั้งแต่ทีมออกแบบ ผลิต จัดซื้อ ซัพพลายเออร์ ไปจนถึงฝ่ายขาย เขาตระหนักดีว่าไม่สามารถบริหารเวลาแบบเดิมได้

ประวัติกล่าวไว้ว่า Nakamura เป็นนักอ่านตัวยง เขาชอบศึกษาหาความรู้หลากหลายด้านจากหนังสือในญี่ปุ่นและต่างประเทศที่มีกว่า 10,000 เล่มในบ้าน วันหนึ่งเขาจึงคิดไอเดียขอให้คนที่จะต้องมารายงานความคืบหน้าให้เขาฟังเพื่อตัดสินใจ ลองสรุปเนื้อหาทั้งหมดไว้ในกระดาษ A3 แผ่นเดียวโดยใช้เวลาสื่อสารให้สั้นที่สุด (เป้าหมายคือประมาณ 3-5 นาทีต่อคน)

ด้วยวิธีนี้การประชุมรายงานประจำเดือนที่ผู้เข้าประชุมเป็นระดับหัวหน้าทีมงานราว 60 คน ก็สามารถนำเสนอและแลกเปลี่ยนข้อมูลในโครงการได้ภายใน 4-6 ชั่วโมงเท่านั้น

และเมื่อรายงานครบทั้งหมดแล้วก็สำเนาเอกสารของทุกฝ่ายกลับไปทำจดหมายเวียนในทีมงานตัวเองต่อไป เปลี่ยนจาก A3 1 แผ่น ของแผนกตัวเองเป็นรายงานความคืบหน้าของโปรเจกต์ประจำเดือนจำนวน 60 หน้าให้คนอีกนับพันได้ทราบพร้อม ๆ กัน)

ชื่อ “A3 Report ” จึงมาจากขนาดของกระดาษมาตรฐานในญี่ปุ่น (ขนาดประมาณ 11×17 นิ้ว) โดย Nakamura มีแนวคิดว่าหากไม่สามารถสรุปประเด็นสำคัญของานตัวเองให้อยู่ในพื้นที่จำกัดนี้ได้ แสดงว่าความคิดนั้นยังไม่ชัดเจนพอ

และด้วยวิธีสื่อสารแบบนี้ทำให้ Nakamura มีส่วนผลักดันรถยนต์โตโยต้าหลายรุ่นไปวางจำหน่ายต่างประเทศสำเร็จเปลี่ยนโตโยต้าจากบริษัทเกือบล้มละลายช่วงสงครามโลกให้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายมากกว่า 9 ล้านคันต่อปีในปัจจุบัน ต่อยอดสู่บริษัทที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่นมายาวนาน

หมายเหตุ : รายได้ต่อปีโดยประมาณของ Toyota Motor Corporation Japan บริษัทเดียวคิดเป็น 5% ของ GDP ประเทศญี่ปุ่น อ้างอิงข้อมูลจาก รายงานผลประกอบการบริษัทและธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น

  1. ประโยชน์ของ One page summary ที่มากกว่าสื่อสาร?

แม้จุดเริ่มต้นจะมาจากการบริหารเวลาสื่อสาร แต่หลังจากที่ One page summary กลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรของโตโยต้า รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นอีกหลายรายแล้ว พวกเขาก็ได้ตระหนักว่าเทคนิคนี้มีประโยชน์อีกหลายประการ

1) ลดต้นทุนบริหารจัดการทั้งทางตรงและอ้อม
ลองจินตนาการว่า Kenya Nakamuara ใช้เวลาทั้งสัปดาห์เพื่อจะเข้าใจงานและตัดสินใจสิ่งสำคัญ ๆ ให้ลูกทีมได้ เงินเดือนของทีมบริหารกว่า 25% จะหมดไปกับการประชุมที่ยังไม่เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจและลูกค้าแม้แต่น้อย และยังทำให้การผลิตและส่งมอบสินค้าล่าช้าตามไปด้วยเพราะการตัดสินใจที่ใช้เวลานานเกินไป

2) พัฒนาทักษะความคิดของพนักงาน
คล้ายกับแนวคิดของ ไอน์สไตน์ที่ว่าหากคุณไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจง่าย ๆ ได้แปลว่าคุณยังไม่เข้าใจเรื่องนั้นดีมากพอ การเล่าให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ว่ายากแล้ว แต่การจะทำให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายในเวลาจำกัดนั้นยากยิ่งกว่า เทคนิคนี้ฝึกให้พนักงานต้องคิดเยอะขึ้นว่า อะไรต้องอธิบาย อะไรถามค่อยอธิบาย และอะไรไม่จำเป็น ชวนให้คิดในมุมของคนอ่านมากขึ้นว่าถ้าเราต้องการให้เขาตัดสินใจ เราควรสื่อสารอะไรบ้าง

3) สร้างระบบการจัดการความรู้ในองค์กรที่มีประสิทธิภาพที่ทุกคนช่วยกัน
แทนที่จะต้องอ่านคู่มือที่เป็นภาพกว้างหลายร้อยหน้าอย่างไร้จุดหมาย จะดีกว่าไหมหากมีบันทึกวิธีคิด สูตรสำเร็จของงานนั้นจริง ๆ ที่รุ่นพี่สรุปไว้ให้อ่าน (1 ใบใช้เวลาอ่านราว 5-12 นาที) เหมือนเป็นสรุปคู่มืออีกทีและหากไม่เข้าใจตรงไหนก็ไปดูคู่มือเท่าที่จำเป็น

นั้นคือสิ่งที่องค์กรญี่ปุ่นหลาย ๆ แห่งเล็งเห็นและทำต่อเนื่องอย่างจริงจัง ทุกปี ๆ พนักงานโตโยต้าที่อยู่ในช่วงลุ้นเลื่อนตำแหน่งจะต้องสรุปผลงานที่ดีที่สุดของตัวเองใส่ One page และไปซ้อมรายงานกับผู้บริหารระดับสูงเพื่อประเมิน “คุณภาพความคิด” ของตัวเอง One page summary ของใครทำได้ดีที่สุดก็มักจะได้รับเลือกให้โปรโมต และกระดาษแผ่นนั้นก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้พนักงานที่อยากเลื่อนตำแหน่งใช้อ้างอิงในเวลาต่อมา

และหากบริษัทใดมีพนักงาน 1,000 คนและทุกคนทำแบบนี้ ผ่านไปไม่ถึง 10 ปีองค์กรก็จะมีคลังความรู้กว่า 10,000 เรื่อง จาก “คุณภาพความคิด” จะกลายเป็นเครื่องรักษา “คุณภาพสินค้าและบริการ” ให้องค์กรได้อย่างยั่งยืน

  1. คุณสมบัติสำคัญของ One page summary

    1) สรุปทุกอย่างที่สำคัญให้อยู่ในกระดาษเพียงใบเดียว (A3,A4,A5)
    2) มีหัวข้อย่อยครบถ้วนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ (ตัดสินใจ, ขอการสนับสนุน, แจ้งให้ทราบ)
    3) ใช้เวลาอ่านจบได้ไม่นานและเข้าใจง่าย (5‐12 นาทีต่อแผ่น)

ตัวอย่างของ One page summary มักประกอบด้วยหัวข้อย่อยสำคัญต่างๆ เช่น:

– บทสรุป (Conclusion)

– วัตถุประสงค์ (Objectives)

– ที่มาและความสำคัญของปัญหา (Background)

– การวิเคราะห์สาเหตุ (Root Cause Analysis)

– ทางเลือกในการแก้ไขปัญหา (Countermeasures)

– แผนดำเนินการ (Action Plan)

– การติดตามผล (Follow-up)

  1. จะสรุปให้อยู่ในกระดาษหนึ่งใบได้ต้องเริ่มจากอะไร?

“การเขียนทุกอย่างลงไปในกระดาษ” กับ “การคัดเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการสื่อสาร” นั้นต่างกันมาก จากประสบการณ์ตรงของผมในฐานะทั้งคนทำ One page summary และ ผู้จัดการที่ต้องเซ็นอนุมัติเอกสาร ผมพบว่าไม่ใช่ทุกคนที่ “สรุปเก่ง”

ถ้าได้ลองมองกระดาษเปล่า ๆ สักแผ่นแล้วคิดว่าจะเขียนอะไรลงไปดีแล้วเราจะพบว่า “อาการฟุ้ง” หรือไม่รู้จะเริ่มอย่างไรเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ผมมีหลักคิดง่าย ๆ ให้และใช้ได้จริง

“อยากได้ผลลัพธ์ที่ดีให้มองหากระบวนการที่ดีก่อน” เป็นค่านิยมที่ชาวญี่ปุ่นยึดถือเสมอมา การสรุปในกระดาษหนึ่งใบก็คล้ายกันหากเราเข้าใจว่าอะไรคือ กระบวนการที่ถูกต้องแล้วการจะสรุปก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

สำหรับผมการทำ One page summary ให้มีประสิทธิภาพมี 3 กระบวนการหลัก ขอเรียกว่า 3P Model:

1. Planning: เข้าใจผู้อ่านและสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้เสียก่อน โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 3 กลุ่ม:

   – Approver: ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ต้องการข้อมูลครบถ้วนแต่กระชับ

   – Supporter: ผู้สนับสนุน ต้องการข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานของตน

   – User: ผู้ปฏิบัติงาน ต้องการข้อมูลสั้นๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ทำตามได้อย่างถูกต้อง

2. Prioritizing: จัดโครงสร้างเนื้อหาให้มี

  –  หัวข้อย่อยที่เหมาะสม

  – มีปริมาณข้อมูลที่พอดีในแต่ละหัวข้อ

  – จัดลำดับการนำเสนอของหัวข้อย่อยให้เข้าใจง่าย

3. Packaging: นำเสนอข้อมูลให้น่าอ่าน น่ามอง และเข้าใจง่ายในเวลาอันสั้น โดยใช้หลักการของสมองกับการรับรู้ข้อมูล ที่เรียกว่า “มอง-เห็น-เข้าใจ”

สรุปเป็นภาพจากหนังสือ “วิธีสรุปให้เข้าใจง่ายด้วยกระดาษใบเดียว”จะมีลักษณะดังนี้

เพียงทำตามขั้นตอนนี้ครบถ้วน ไม่สลับ ไม่ขาดไม่เกิน เราก็สามารถทำ one page summary ที่ดีพอได้แล้ว

6. ในยุคสมัยที่ AI เข้ามา ทักษะสรุปยังสำคัญอยู่อีกไหม?

จริง ๆ แล้วยิ่งในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทักษะการสรุปยิ่งทวีความสำคัญ เพราะ:

  1. AI สามารถช่วยรวบรวมข้อมูลได้มากและรวดเร็ว แต่การคัดกรองและจัดลำดับความสำคัญยังต้องอาศัยการตัดสินใจของมนุษย์
  2. การสรุปไม่ใช่เพียงการย่อข้อความ แต่เป็นการทำความเข้าใจบริบท วัฒนธรรม และความต้องการของผู้รับสาร ซึ่ง AI ยังมีข้อจำกัด (เป้าหมายสูงสุดของการสรุปคือเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการในการสื่อสารครั้งนั้น ๆ)
  1. ทักษะการสรุปช่วยให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการให้คำสั่งที่ชัดเจนและเข้าใจผลลัพธ์ที่ได้อย่างถ่องแท้

โดยสรุป AI สามารถเป็นเครื่องมือช่วยได้แต่ผมเชื่อว่ายังไม่สามารถทดแทนทักษะการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารแบบมนุษย์ได้ทั้งหมดในเวลาอันใกล้

7. อยากให้พนักงานทั้งองค์กรทำได้ควรทำอย่างไร?

มีหลายอย่างที่จำเป็นในการสร้างวัฒนธรรม One page summary องค์กรควรดำเนินการดังนี้:

1. **เริ่มจากผู้นำ**: ผู้บริหารต้องเป็นแบบอย่างในการใช้ One page summary และให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบบกระชับ

2. **ฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ**: จัดหลักสูตรอบรม เช่น Master of One Page Summary ที่มีการฝึกปฏิบัติจริง ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น:

   – ฝึกสรุปใน 1 นาที

   – เรียนรู้การสร้าง One page summary ผ่านการออกแบบบ้าน

   – Workshop ทำ One page summary จากโจทย์จริง

3. **สร้างมาตรฐานองค์กร**: กำหนดรูปแบบมาตรฐานของ One page summary ที่ใช้ในองค์กร และทำเป็นตัวอย่างให้พนักงานเรียนรู้

4. **ส่งเสริมการใช้งานจริง**: กำหนดให้การนำเสนองานหรือโครงการต้องใช้รูปแบบ One page summary

5. **ให้รางวัลและยกย่อง**: สร้างแรงจูงใจโดยการให้รางวัลแก่พนักงานที่สามารถสรุปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. **ติดตามและปรับปรุง**: รวบรวมผลลัพธ์และข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น 7. ให้พนักงานหาความรู้จากตัวอย่าง one page หนังสือ หรือ เว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เพจ สรุปให้ ,หนังสือ วิธีสรุปให้เข้าใจง่ายด้วยกระดาษใบเดียว

Bonus ตัวอย่างของ one page summary ที่น่าสนใจ

8. ความเก่งจะหมดความหมายถ้าอธิบายไม่เข้าใจ
เหตุผลที่ผมอินกับการสรุปแบบ One page summary มากเป็นเพราะว่าสมัยเริ่มทำงานใหม่ ๆ หัวหน้าชาวญี่ปุ่นมักฟีดแบกว่า รายงานของแป๊ะคุงนั้นหนามากแต่อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าอยากให้ทำอะไร ทั้งที่ผมใช้เวลาเขียนตั้งสัปดาห์แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับและอนุมัติ จนผมต้องใช้เวลาเสาร์ อาทิตย์มาทำ OT เพื่อแก้ให้ทันเดดไลน์

เช้าวันอาทิตย์หนึ่งที่ผมยืนเคารพธงชาติตอนเช้าตามปกติผมก็ได้ตระหนักว่าจากออฟฟิศปกติซึ่งมีคนนับร้อย วันนี้กลับมีผมคนเดียวที่ต้องมาทำงาน (T_T) จนผมเกิดคำถามกับตัวเองว่า “ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติแล้ว ขนาดหัวหน้าญี่ปุ่นที่บ้างานยังไม่มาเลย”

ยังดีที่คำถามถัดมาในหัวช่วยชีวิตผมไว้ ผมถามตัวเองว่า“แล้วคนที่ไม่ต้องมาทำงานวันอาทิตย์เขาทำรายงานกันแบบไหนนะ” จบงานวันนั้นเสร็จผมตัดสินใจหยิบรายงานที่รุ่นพี่คนหนึ่งทำมาอ่านดู พี่ท่านนี้จบปริญญาเอกจากญี่ปุ่น และทำงานเก่งมากแทบไม่เคยต้องทำ OT เลยแต่กลับทำรายงานได้มากกว่าผมหลายเท่า และทันทีที่ได้อ่านก็ทำให้ผมเข้าใจความต่างของ “การเขียนทุกอย่างที่เรารู้” กับ “การสรุปสิ่งสำคัญที่ผู้อ่านอยากรู้” ว่ามันต่างกันมาก

จากวันนั้นผมก็พยามถอดรหัสจากรายงานดี ๆ ในบริษัท และพอได้รู้กระบวนการและวิธีคิดที่ถูกต้องแล้วชีวิตก็ดีขึ้นตามลำดับ ทำงานรายงานแล้วอนุมัติง่าย เริ่มได้รับคำชมว่าอธิบายเก่งขึ้น ได้รับโอกาสไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นและเลื่อนตำแหน่งได้ไวกว่าค่าเฉลี่ย

อันที่จริงผมก็ทำงานหนักพอ ๆ กับตัวเองคนเก่าแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ “ความสามารถในการอธิบาย”

สิ่งที่ผมได้ตระหนักรู้ก็คือ “ความเก่งจะหมดความหมายถ้าอธิบายไม่เข้าใจ” คงน่าเสียดายมากที่เราไม่สามารถบอกใครได้ว่าเราทำงานได้ดีแค่ไหนเพียงเพราะเราถ่ายทอดได้ไม่ดีพอ

มาเริ่มต้นฝึกทำ One page summary กันครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

# หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการสรุปแบบ One page summary สามารถติดต่อ เซนเซแป๊ะ (วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพแบบญี่ปุ่นและผู้เขียนหนังสือ “วิธีสรุปให้เข้าใจง่ายด้วยกระดาษใบเดียว” ได้ที่ช่องทางดังนี้

  • เพจ “สรุปให้”  Link:  https://www.facebook.com/saroophaiofficial
  • เว็บไซต์ Link: www.senseipae.com
  • โทร. 062-347-3884
  • Line OA official: @senseipae

Ref : https://toyotatimes.jp/en/newscast/biography_of_toyota/001.html
https://www.toyota-global.com/company/history_of_toyota/75years/text/taking_on_the_automotive_business/chapter2/section8/item3_b.html

Post Views: 3
  • Share:
วิฑูรย์ สูงกิจบูลย์ (เซนเซแป๊ะ)

• วิทยากรและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่มีงานบรรยาย มากกว่า 200 รุ่น ในรอบ 3 ปี ส่งมอบความรู้ให้คนไทยมากกว่า 5,000 คน
• อดีตผู้จัดการหน่วยวิจัยและพัฒนาระดับประเทศที่มีประสบการณ์ทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น 2 ปี
• Founder “เพจสรุปให้” เพจที่มีคน ติดตามกว่า 390,000 คน
• ผลงานด้านนักเขียน Best Seller 3 เล่ม

Previous post

Book บำบัด EP2: หนังสือสำหรับคนคิดว่า "สายเกินไป" ที่จะเริ่มต้นใหม่
21 พฤษภาคม 2025

Next post

#วิธีแก้ปัญหาที่บริษัทญี่ปุ่นใช้เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ
22 พฤษภาคม 2025

You may also like

#วิธีแก้ปัญหาที่บริษัทญี่ปุ่นใช้เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ
22 พฤษภาคม, 2025

1. ปัญหาในมุมมองของบริษัทญี่ปุ่น“คนที่บอ …

บรรยายวิธีสอนให้สนุกเข้าใจง่าย
19 สิงหาคม, 2024

บรรยายพิเศษ  วิธีสอนให้สนุกและเข้าใจง่าย …

สรุปหนังสือ | วิธีคิดของคนค่าตัวแพง | คิตาโนะ ยุยหงะ
19 พฤษภาคม, 2024

หนังสือที่บอกความลับของคนค่าตัวแพง &#822 …

Leave A Reply ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Categories

  • Podcast
  • การเงิน
  • บทความ
  • บทความ
  • เขียนได้ขายดี


เซนเซแป๊ะ วิทยากรและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่มีงานบรรยาย มากกว่า 500 รุ่น ในรอบ 5 ปี ส่งมอบความรู้ให้คนไทยมากกว่า 5,000 คน


คอร์สออนไลน์

  • S2 : Turn How To Make Japanese Style presentation
  • S11 : Super Productive Communication Tools
  • S24 : Japanese Time Management Mastery
  • S8 คอร์ส Story Telling with Data อย่าเป็นคนเก่งที่เล่าเรื่องไม่เป็น
  • S3+: Build Page 100,000 Likes
  • S21 : Master of Productivity

ติดต่อเรา

icon_FB
senseipae
icon_Line
@senseipae
icon_youtube
senseipae
icon_Email

senseipae@gmail.com
(จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-17.30 น.)


เซนเซแป๊ะ วิทยากรและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่มีงานบรรยาย มากกว่า 500 รุ่น ในรอบ 5 ปี ส่งมอบความรู้ให้คนไทยมากกว่า 5,000 คน

คอร์สออนไลน์

  • Super Productive Communication Tools
  • Management Mastery

ติดต่อเรา

icon_FB
senseipae
icon_Line
@senseipae
icon_youtube
senseipae
icon_Email

senseipae@gmail.com
(จันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-17.30 น.)

© Powered by senseipae. 2022

Back to top